วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

การให้เกียรติแขกผู้มาเยือน


            
                 จากท่าน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู เล่าว่า : ท่านเราะสูรุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า   "ผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลกแล้ว เขาก้อจงพูดในสิ่งที่ดีงามหรือไม่ก็นิ่งเงียบเสีย และ ผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลกแล้ว เขาก็จงให้เกียรติเพื่อนบ้านของเขา และผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก เขาก็จงให้เกียรติแขกของเขา"

                                                              {{  หะดีษบันทึกโดย อัล-บุคอรี และ มุสลิม  }}


               

การตักเตือน คือ เสาหลักของศาสนา




       จากท่าน อบู รุก็อยยะฮฺ นั่นคือ ตะมีม อิบนุ เอาสฺ อัด-ดารีย์ เราะฎิยัลลอฮิอันฮู เล่าว่า :ท่านนบี   (ซ.ล.) กล่าวว่า "ศาสนา คือ การตักเตือน" พวกเราถามว่า: เพื่อใครหล่ะ ? ท่านนาบี (ซ.ล.)       ตอบว่า "เพื่ออัลลอฮฺ เพื่อคัมภีร์ของพระองค์ เพื่อศาสนทูตของพระองค์ เพื่อบรรดามุสลิม และเพื่อบรรดา   มุสลิมทั่วไป"

                                                          

                                        {{ หะดีษ บันทึกโดย : มุสลิม }}


วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ชีวิตและทรัพย์สินมุสลิมเป็นสิ่งต้องห้าม


   
     
   จากท่าน อิบนิอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอัลฮูมา เล่าว่า : ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า:    
  "ฉัน ถูกสั่งใช้เพื่อต่อสู้กับมนุษย์ จนกว่าพวกเขาจะปฏิญาณว่า ลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮุ  (หมายความว่า   ไม่มีพระเจ้าอื่นใด - ที่ควรแก่การเคารพภักดีอย่างแท้จริง - นอกจากอัลลอฮุ)  วะอันนะมุหัมมะดัน เราะซูลุลลอฮฺ (และมุฮัมมัดนั้นเป็นศาสนทูตของอัลอฮุ) และ (จนกว่า) พวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และ (จนกว่า)  พวกเขาจะจ่ายซ่ากาต ดังนั้นเมื่อพวกเขาปฏิบัติตามดังที่กล่าวมานั้นแล้วเลือดเนื้อและทรัพย์สินของพวกเขาย่อมได้รับการคุ้มครองจากฉัน เว้นแต่ด้วยสิทธิของอิสลาม  และ การสอบสวนของพวกเขานั้น เป็นหน้าที่ของอัลลอฮุ"

                                               
                                                                 {{หะดีษบันทึกโดย อัล-บุคคอรี และ มุสลิม}}




วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ละหมาด

      

            จาก อับดุลลอฮ. บินอัมรี (รอฎิยัลลอฮุอัลฮุมา) เล่าว่า : วันหนึ่งท่านนาบี (ซ.ล.) พูดถึง         การละหมาดว่า : "ผู้ใดระวังรักษาละหมาด  ในวันกียามะฮ.ละหมาดจะเป็นณูร (รัศมี) แก่เขา               เปนหลักฐาน  (แสดงถึงการเป็นผู้ที่มีอีมานที่สมบูรณ์) และ จะเป็นสิ่งที่ทำให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษในวันกียามะฮ. ส่วนผู้ใดมิได้ระวังรักษาละหมาด ในวันกียามะฮ.เขาจะไม่มีราศี ไม่มีหลักฐานใดๆ       (ที่จะบอกถึงการเป็นผู้ที่มีอีมานที่สมบูรณ์ของเขา)  ไม่มีสิ่งปกป้องให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษและในวันกียามะฮ.เขาจะอยู่กับ ฟิรอูน ฮามาน และ อุมัย บิน คอลัฟ"

                                                       {{ มุสนัตอะฮุ์หมัด , ฏ็อบรอนี , มัจมะอุชชะวาฮิด}}



วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แนะนำตัว


ชื่อ    :  นางสาว อัมมาเราะ  ชุมสาแหละ
ที่อยู่  :  410  หมู่ที่ 2 ตำบล ควนลัง อำเภอ หาดใหญ่ จังหวัด สงขลา
ศึกษาอยู่ที่ : โรงเรียนมุสลีมีนศึกษา 
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5